How to:   Download POI's to Garmin      
Download TomTom POI
                                                257 results    (0.000    0.16645812988281    0.16988015174866)

Select All
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  
 PlaceLocationCategoryDescription
วัดไตรมิตรวิทยาราม (Wat Traimit)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)templeเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำองค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (หลวงพ่อสุโขทัยไตรมิตร) เป็นพระอารมหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณปี พ.ศ. ๒๓๗๕ เดิมชื่อว่า วัดสามจีน เนื่องจากมีชาวจีน ๓ คนช่วยกันสร้างวัดนี้ และได้เปลี่ยนนามใหม่เป็น วัดไตรมิตรวิทยาราม เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ต่อมาได้รับพระราชทานยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นโท เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ในพระวิหารเป็นที่ประดัษฐาน พระสุโขทัยไตรมิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำ ปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ระหว่างปี พ.ศ. ๑๘๒๐-๑๘๖๐ แต่เดิมนั้นเป็นพระพุทธรูปที่มีปูนปั้นหุ้มองค์พระไว้ ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย และได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่ วัดโชตินาราม(วัดพระยาไกร) ในสมัยรัชการที่ 3 ต่อมาเมื่อวัดโชตินารามเป็นวัดร้าง จึงได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่
วัดราชโอรส (Wat Ratcha-orot or Wat Ratcha Orasaram)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhism, buddhist templeวัดราชโอรสาราม หรือ วัดราชโอรส ตั้งอยู่ริมคลองสนามไชย ฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี) และติดคลองบางหว้า ทางด้านทิศเหนือของวัด ตั้งอยู่เลขที่ ๒๕๘ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร วัดราชโอรสเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร และถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๓ แห่งบรมราชวงศ์จักรี เป็นวัดโบราณมีมาก่อนสร้างกรุงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ คือ เป็นวัดราษฎร์ที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เดิมเรียกว่า "วัดจอมทอง" บ้าง "วัดเจ้าทอง" บ้าง หรือ "วัดกองทอง" บ้าง
วัดยานนาวา (Wat Yannawa)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดยานนาวา พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดถนนเจริญกรุง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เป็นวัดโบราณ มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ "วัดคอกควาย" เนื่องจากมีชาวทวายมาลงหลักปักฐานอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และชาวทวายจะนำกระบือที่เลี้ยงไว้มาทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน หมู่บ้านบริเวณนั้นจึงได้ชื่อเรียกกันต่อมาว่า "บ้านคอกควาย" ในสมัยกรุงธนบุรีได้รับการยกฐานะวัดคอกควายขึ้นเป็นพระอารามหลวง เรียกชื่อใหม่ว่า "วัดคอกกระบือ" ต่อมารัชกาลที่ 1 ทรงสร้างพระอุโบสถใหม่ ครั้นถึงรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และสร้างเรือสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นรูปแบบเรือสำเภา ซึ่งกำลังจะหมดไปจากเมืองไทย จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดคอกกระบือ เป็น "วัดยานนาวา" (Thai text from Wikipedia.org entry on Wat Yannawa.)
วัดหัวลำโพง (Wat Hua Lamphong)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple
วัดถือน้ำ Wat Teu-Nam(th)Thailand / Nakhon_Sawan / Nakhon_Sawan
วัดพิชยญาติการามวรวิหาร (Wat Phitchaya Yatikaram Worawiharn)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)templeเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหารเดิมเป็นวัดร้าง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัตบุนนาค) ครั้งดำรงยศเป็น พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ได้ปฏิสังขรณึ้นใหม่เมื่อปี พ. ศ. ๒๓๘๔ ในรัชกาลที่ ๓ เนื่องจากท่านมี เรือกำปั่นค้าขายกับต่างประเทศอยู่หลายลำ จีงหาชี้อวัสตุก่อสร้างส่วนใหญมาจากจีน ถาวรวัตถุที่ก่อสร้างขี้นจีงมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีน สิ่งสำคัญในพระอาราม มีพระอุโบสถขนาดย่อม หลังคาแบบเก๋งจีน ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันทั้ง สองด้านเป็นลายปูนปั้นมังกรสอดสีประดับกระเบื้อง เพดานตามระเบียง เขียนลยดอกไม้สอดสี เสาพาไลเป็นศิลากลม ฐานของพาไลสลักศิลาเป็นรูปในเรื่องสามก๊กด้วยฝีมีองดงาม บานประตูหน้าพระอุโบสถเขียนลารดน้ำเป็นรูปเชี่ยวกางเหยียบสิงโต บานประตูกลางเป็นลายรดน้ำรูปเทวดาถือพระขรรค์เหยียบราชสีห์ ภายในพระอุโบสถฝาผนังและเสาภายในมีภาพจิตรกรรมรูปลายดอกไม้ ผนังบานกกหน้าต่างด้านนอกเขียนรูปต้นไม้สวรรค์ต่าง ๆ เช่น ต้นนารีผลและต้นกัลปพฤกษ์ หลังพระประธานเขียนเป็นรูปชุ้มเรือนแก้ว ลานหน้าพระอุโบสถปูด้วยแผ่นศิลาจากเมืองจีน เสมาสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นเสมาคู่ ชุ้มเสมาช่างไทย ออกแบบ
วัดพระเจ้าตนหลวง(ชื่อที่ชาวบ้านเรียกขาน) Wat Si Khom Kham also called Phra Chao Ton Luang(th)Thailand / Phayao / Phayao (พะเยา)buddhist templeมีพระอารามหลวง ชั้นตรี พระประธานองค์ใหญ่มากทำให้ชาวบ้านเรียกว่า พระเจ้าองค์หลวง หรือ พระเจ้าตนหลวง หลวงในภาษาเหนือแปลว่าใหญ่ The provincial seal shows Buddha, representing the famous Buddha image in the temple Wat Si Khom Kham called Phra Chao Ton Luang. Behind him are 7 flames showing the glory of Buddha. In
วัดอนงคาราม (Wat Anongkharam Worawiharn)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดอนงคารามวรวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เดิมชื่อ วัดน้อยขำแถม โดบ ท่านผู้หญิงน้อย ใน สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) เป็นผู้สร้างขึ้นในสวนกาแฟของท่าน เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๓ แล้วน้อมเกล้า ฯ ถวายรัชกาลที่ ๓ เป็นพระอารามหลวง ต่อมารัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดอนงคราม พระวิหารเป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ ๑ คือ มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง หัวเสาประดับด้วยกลีบบัว มีคันทวยโดยรอบพระวิหาร ภายในมีพระประธาน พระนามว่า พระจุลนาค เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยสุโขทัย หล่อด้วยโลหะปิดทอง ได้อัญเชิญมาจากสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ หมู่กุฏิเป็นเรือนมนิลา
Wat Sothorn School(th)Thailand / Chachoengsao / Chachoengsao (เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา)school, buddhist templeWat Sothorn School โรงเรียนประถมศึกษาวัดโสธร
Wat Benchambophit (วัดเบญจมบพิตร)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, nice, thai, marble, buddhist templeเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมเป็นวัดเก่าแก่เล็ก ๆ ชื่อว่า วัดแหลม เพราะตั้งอยู่ ปลายแหลมของที่สวนติดกับทุ่งนา และยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวัดไทรทอง เนื่องจากมีต้นไทรทองปรากฎอยู่ให้เห็น เมื่อปี พ. ศ. ๒๓๗๐ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระพิพิธโภคถูเบนทร์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๒ ได้ทรงตั้งกองทัพรับขบถเจ้าอนุวงศ์ ที่วัดนี้ หลังจากเสร็จจากการปราบขบถแล้ว ได้ทรงปฎิสังขรณ์วัด พร้อมกับสร้างพระเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ ๕ องค์ เรียงรายอยู่ หน้าวัดด้วย ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระองค์ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดเบญจมบพิตร หมายถึง วัดของเจ้านาย ๕ พระองค์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๒ รัชกาลที่ ๕
Wat Prayurawongsawat Worawiharn (วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เชิงสะพานพุทธ ถนนประชาธิปก แขววัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. 10600 - ขอเชิญนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อพระพุทธนาคพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระอาราม - โดยมี พระเดชพระคุณพระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙.,Ph.D.,ศาสตราจารย์)เป็นเจ้าอาวาส. - www.watprayoon.org ----------------------------------------------------------------------------- (จุดสังเกต)สถานที่ใกล้เคียง - ทิศเหนือ (โรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์/วัดกัลยาณ์/กองทัพเรือ/สำนักเทศกิจ) - ทิศตะวันออก (สะพานพุทธฯ/วัดเลียบ/โรงเรียนสวนกุหลาบ/ดิโอล์สยาม/บ้านหม้อ/พาหุรัด) - ทิศใต้ (โรงเรียนศึกษานารี/วัดพิชยญาติการาม/วัดอนงคาราม/สวนสมเด็จย่า) - ทิศตะวันตก (วัดบุปผาราม/สี่แยกบ้านแขก/มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา-ธนบุรี/วงเวียนใหญ่) วัดประยุรวงศาวาสวรวัหารเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ โดย สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ ได้อุทิศสวนกาแฟสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.
วัดระฆังโฆสิตารามฯ; Wat Rakhang(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, ancient, remainsวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ (หรือบางหว้าใหญ่) ในสมัยธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรง สร้างพระราชวังใกล้วัดบางว้าใหญ่ โปรดเกล้าฯ ให้ยกเป็นพระอารามหลวงและเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดบางว้าใหญ่อยู่ในพระอุปถัมภ์ของเจ้านายวังหลัง คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี (สา) พระเชษฐภคินีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นพระชนนีของ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงมีตำหนักที่ประทับอยู่ติดกับวัด ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดร่วมกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ขุดพบระฆังลูกหนึ่ง ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงสร้างระฆังชดเชยให้วัดบางว้าใหญ่ 5 ลูก จากนั้นได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” นอกจากเป็นเพราะขุดพบระฆังที่วัดนี้และเพื่อฟื้นฟูแบบแผนครั้งกรุงศรี อยุธยาที่มีวัดชื่อวัดระฆังเช่นกัน ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อ “วัดระฆังโฆสิตาราม” เป็น “วัดราชคัณฑิยาราม” (คัณฑิ แปลว่าระฆัง) แต่ไม่มีคนนิยมเรียกชื่อนี้
วัดราชบูรณะ (Wat Rat Burana or Wat Ratchaburana)(th)Thailand / Phra_Nakhon_Si_Ayutthaya / Ayutthaya (เกาะเมืองอยุธยา : Ayutthaya)temple, ruins, ancient, remains, buddhist templeวัดราชบูรณะ พระนครศรีอยุธยาเป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา อยู่ติดกับวัดมหาธาตุทางทิศเหนือ วัดนี้โด่งดังมากในเรื่องการขุดพบเครื่องทองมากมายในกรุพระปรางค์ใหญ่ในวัด วัดราชบูรณะเป็นวัดที่เจ้าสามพระยาทรงสถาปนาขึ้น โดยสร้างเจดีย์ 2 องค์ ขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับพระเชษฐา ภายในมีกรุบรรจุของมีค่า แม้วัดนี้จะถูกเผาทำลายครั้งเสียกรุงในปี 2310 แต่โครงสร้างอาคารต่าง ๆ ยังเหลือแบบอย่างให้ศึกษามากมาย
วัดมหาธาตุ (Wat Mahathat)(th)Thailand / Phra_Nakhon_Si_Ayutthaya / Ayutthaya (เกาะเมืองอยุธยา : Ayutthaya)temple, ruins, ancient, remains, buddhist templeวัดมหาธาตุ กรุงศรีอยุธยา เป็น ๑ ในวัดที่จัดอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญที่สุดในกรุงศรีอยุธยา เพราะนอกจากเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุกลางเมืองแล้ว ยังเป็นที่พำนักของ สมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้าง และ ดูแลตลอดเวลา วัดมหาธาตุเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยต้นอยุธยา ในรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิวาส ราว พ.ศ. 1917 มีเจดีย์ประธานเป็นองค์ปรางค์เดิมสร้างด้วย ศิลาแลง ต่อมามีการบูรณะโดยการเสริมอิฐ ภายในมีกรุที่พบโบราณวัตถุมีค่าหลายอย่าง
วัดสามพระยา Wat samphraya(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeimportant place for tourist
วัดเทพธิดาราม (Wat Thepthidaram)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดเทพธิดาราม
วัดสระเกศ (Wat Saket)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดสระเกศ) อยู่ริมคลองมหานาคและคลองรอบกรุง ใกล้สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เป็นวัดโบราญในสมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า วัดสะแก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์และขุดคลองรอบพระอาราม แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดสระเกศ ซึ่งแปลว่า ชำระพระเกศา เนื่องจากเคยประทับทำพิธีพระกระยาสนานเมื่อเสด็จกรีธาทัพกลับจากกัมพูชามาปราบจลาจลในกรุงธนบุรี และเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติใน พ.ศ. ๒๓๒๕ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้างสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีก ที่สำคัญคือ พระบรมบรรพตหรือภูเขาทอง ซึ่งทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระเจดีย์บนยอดพระบรมบรรพตเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาแต่ครั้งนั้น ในส่วนของพระอาราม มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ ๆ เช่น
วัดชัยชนะสงคราม หรือ วัดตึก (Wat Chaichana Songkhram or Wat Tuek)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดชัยชนะสงครามเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๑ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ โดย <em>เจ้าพระยา บดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี)</em> แม่ทัพใหญ่ หลังจากทำศึกรบชนะญวน และเขมรกลับมา แล้วมีจิตศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา ได้ยกที่ดินและบ้านสร้างถวายเป็นวัด ตั้งชื่อว่า <em>วัดชัยชนะสงคราม</em> เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความมีชัยชนะสงครามเนื่องจากเรือนของท่าน รวมทั้งกุฏิสงฆ์ ตลอดจนอาคารสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ได้ถูกสร้างเป็นตึกทั้งหมด ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า <em>วัดตึก</em> พระอุโบสถภายในวัด มีชอฟ้า ใบระกา ติดกระจกปิดทอง หน้าบัน ซุ้มประตู หน้าต่าง สร้างด้วยหินอ่อน มีพระประธานพระนามว่า <em>สิงหมุนินทร์ ธรรมบดินทร์ โลกนาถเทวนรชาติ อภิปูชนีย์</em> นอกจากนั้นยังมี หอพระไตรปิฎก
วัดใหม่อมตรส (Wat Mai Amataros)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรหมใน) สร้างขึ้นในปลายรัชกาล สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดวรามะตาราม ต่อมาเปลี่ยนชื่อว่า วัดอำมาตยรส หรือ วัดอมฤตรส แต่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดบางขุนพรหม หรือ วัดบางขุนพรหมใน คู่กันกับ วัดบางขุนพรหมนอก หรือ วัดอินทรวิหาร
วัดสังเวช (Wat Sangvej)(th)Thailand / Bangkok / Bangkok (กรุงเทพมหานคร)temple, buddhist templeวัดสังเวชวิศยาราม (Wat Sangveswitsayaram)
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  
257 results
Wikipedia      Wikimapia      OpenStreetMap      Contact us     Privacy Policy geodeg.com 2011